เครื่องจักรในโรงงานจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพการทำงานที่ดี บางครั้งเครื่องจักรก็เริ่มสั่นและสั่นสะเทือนจนอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ นี่คือบทบาทของการตรวจสอบการสั่นสะเทือน การตรวจสอบการสั่นสะเทือนเปรียบเสมือนซูเปอร์ฮีโร่ที่เชื่อมต่ออย่างแน่นหนา มันคอยเฝ้าดูแลเครื่องจักรเพื่อให้พวกมันทำงานได้อย่างสมบูรณ์
การตรวจสอบการสั่นสะเทือนได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีใหม่ ในอดีต เครื่องจักรต้องถูกตรวจสอบด้วยสายตาว่าสั่นสะเทือนเกินไปหรือไม่ แต่ตอนนี้มีเซนเซอร์ที่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง เซนเซอร์เหล่านี้สามารถตรวจจับความผิดปกติใดๆ ได้อย่างรวดเร็ว เครื่อง较เทียบการสั่นสะเทือน และแจ้งเตือนผู้ควบคุมเครื่องจักร ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที
การนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในแพลตฟอร์มการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
จินตนาการถึงการมีเพื่อนที่สามารถทำนายอนาคตได้ พวกเขาจะบอกคุณล่วงหน้าเมื่อมีบางสิ่งไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้คุณสามารถป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ นั่นคือสิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) ทำในโรงงาน AI เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาดมากซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักรและคาดเดาได้ว่ามันอาจเสียเมื่อไหร่
โรงงานจะประหยัดเวลาและเงินไปได้เป็นจำนวนมากโดยการนำ
AI มาใช้ในระบบการบำรุงรักษา แทนที่จะรอให้เครื่องจักรเสียแล้วจึงซ่อมแซม พวกเขามีความสามารถในการป้องกันไม่ให้เครื่องจักรเสียตั้งแต่แรก การดำเนินการนี้ช่วยให้เครื่องจักรทำงานอย่างราบรื่นและช่วยประหยัดค่าซ่อมแซมที่แพงสำหรับธุรกิจ
On the Wings of NIR: Wireless Sensors Transforms the Manufacturing Sector
ลองนึกถึงสมัยที่โทรศัพท์ยังมีสาย หรือหากเครื่องจักรมีหาง มันจะทำให้ยากต่อการเคลื่อนย้ายหรือตรวจสอบโชคดีที่ เครื่อง较เทียบการสั่นสะเทือน เทคโนโลยีได้พัฒนาไป และปัจจุบันมีเซนเซอร์ไร้สายที่ไม่จำเป็นต้องใช้สายเคเบิล
จินตนาการถึงเซนเซอร์ไร้สายเป็นสายลับเล็กๆ ที่สามารถวางไว้บนเครื่องจักรเพื่อตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรนั้น การสั่นสะเทือน พวกเขาสามารถส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องใช้สาย ทำให้ผู้ควบคุมสามารถตรวจสอบทุกอย่างได้อย่างสะดวก มันคือเทคโนโลยีที่มีพลังในการปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น